Reviews
VCL
Prestige Phono Stage
Too Bright for
Tube Lover.
  
Introduction
ขอแนะนำเครื่องเสียงของไทยอีกรายหนึ่งซึ่งได้ทำธุรกิจอยู่ในแวดวงเครื่องเสียงมาเป็นเวลานานแล้ว
แต่ไม่ค่อยเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางเท่าที่ควร
เนื่องจากทางผู้ดำเนินกิจการไม่ได้ทำการประชาสัมพันธ์และทำการตลาดอย่างจริงจัง
จึงเป็นที่รู้จักเฉพาะในหมู่ของนักเล่นที่ชอบแสวงหาเท่านั้น
Poem
เป็นร้านเครื่องเสียงที่เก็บตัวอย่างเงียบๆบนชั้น
3
ของศูนย์การค้าดิโอลสยามพลาซ่า
ด้านถนนบูรพา
ซึ่งเดิมทีนั้นใช้ชื่อผลิตภัณฑ์ของตนในชื่อ
VCL
แต่ภายหลังได้เปลี่ยนมาใช้ชื่อ
Poem
กับผลิตภัณฑ์เหมือนชื่อร้าน
เครื่องเสียงของ Poem
นั้นมีอยู่หลายอย่าง
ได้แก่ Pre-Amp,
Amp, Integrated
Amp, Phono Stage
และลำโพง
โดยเฉพาะลำโพงนั้นมีจุดเด่นที่ใช้
Driver
คุณภาพสูงอย่าง
Scanspeak, Vifa และSeas
ตลอดจนการใช้
Crossover แบบ Hard-wire
เช่นเดียวกับลำโพงชั้นดีโดยทั่วไป
และที่สำคัญคือเป็นลำโพงแบบปิดที่หาฟังได้ยากยิ่งในปัจจุบัน
ซึ่งผมได้สัมผัสเสียงอยู่ครู่ใหญ่รู้สึกว่าเป็นลำโพงของไทยที่
"เข้าท่า"
มากทีเดียว
แต่เรื่องที่จะขอนำเสนอต่อไปนี้ขอเป็นเรื่องของ VCL
Phono Stage รุ่น Prestige
เพียงอย่างเดียว
ซึ่งต้องขอขอบคุณ
คุณ Classical lover
เป็นอย่างยิ่งที่ได้กรุณาให้เครื่องตัวนี้มาทดลองฟังอย่างเต็มที่ครับ
รูปแสดง
ด้านหน้าและด้านหลังเครื่อง
Appearance
EXTERIOR
ตัวเครื่องมีขนาดมาตรฐานของเครื่องเสียงทั่วไป
จึงทำให้สามารถวางซ้อนกับเครื่องเสียงชิ้นอื่นได้ไม่ยาก
ตัวถังทำจากอลูมิเนียมอย่างหนาพิเศษ
โดยขอบข้างใช้แผ่นอลูมิเนียม
2
ชิ้นดัดขึ้นรูปมาประกอบกันเป็นกรอบตัวถัง
ส่วนด้านบนและด้านล่างเป็นแผ่นอลูมิเนียมวางลงในกรอบตัวถังปิดด้านบนและด้านล่าง
ยึดด้วยนัทหัวเรียบไขด้วยสกรูหกเหลี่ยมเหมือนเครื่องเสียงระดับ
HI-END
ซึ่งยอมรับเลยว่าเป็นงานผลิตตัวถังเครื่องที่ประณีตและแข็งแรงมากสำหรับเครื่องเสียงที่ผลิตในประเทศ
ด้านหน้ามีสวิทซ์เปิด
/
ปิดแบบกดอยู่ด้านซ้ายมือพร้อมหลอดแสดงการทำงาน
ด้านหลังมีขั้ว
RCA ของ input / output
ชุบทอง พร้อมขั้วต่อสายดินทองเหลืองและสาย
AC แบบถอดได้
ซึ่งทั้งหมดเป็นงานที่ประณีตเช่นกัน
รูปแสดง
กล่องครอบหม้อแปลง/วงจร
INTERIOR
เมื่อเปิดฝาเครื่องด้านบนจะพบกับกล่องเหล็กครอบหม้อแปลงและวงจรอีกชั้นหนึ่ง
จึงต้องทำการถอดครอบกล่องเหล็กนี้ด้วยจึงจะสามารถเห็นรายละเอียดของวงจรได้
เมื่อได้เปิดครอบทั้งหมดที่กล่าวมาเรียบร้อยแล้ว
วงจรที่ปรากฏให้เห็นนั้นประกอบด้วยหม้อแปลงแบบวงแหวน
1 ตัวและ Capacitor ของ
ELNA ขนาด1000 uFจัดวางเป็นตับอยู่
20 ตัวพร้อมกับวงจรประกอบอื่นๆ
ซึ่งการออกแบบวงจรในลักษณะนี้จะปรากฏให้เห็นใน
Phono Stage
ประสิทธิภาพสูงทั่วไปโดยเฉพาะ
DIY
ของต่างประเทศ
แต่ที่ยังติดใจสงสัยอยู่อย่างหนึ่งก็คือไม่ทราบวัตถุประสงค์ของผู้ออกแบบวงจร
ที่ออกแบบให้หม้อแปลงและวงจรถูกครอบไว้ในกล่องเหล็กร่วมกัน
ซึ่งที่พบเห็นทั่วๆไปนั้นส่วนมากจะครอบเฉพาะหม้อแปลงเพียงอย่างเดียว
เพื่อป้องกันการรบกวนของสนามแม่เหล็กจากหม้อแปลง
โดยบางเครื่องอาจจะแยกหม้อแปลงให้อยู่อีกตัวถังหนึ่งต่างหากไปเลย
รูปแสดง
วงจรภายในเครื่องซึ่งจะเห็น
Capacitor จำนวน 20 ตัว
Sound
เนื่องจาก
Phono
ตัวนี้ไม่ได้ใช้งานมาเป็นเวลานาน
จึงต้องทำการ
Burn-in
กันใหม่อีกครั้งโดยเปิดเครื่องต่อเนื่องกันเป็นเวลา
24 ชั่วโมง
เพื่อเรียกกำลังวังชาให้พร้อมก่อนที่จะเริ่มฟังกัน
หลังจากที่้
Burn-in
ได้พอสมควรแล้วจึงนำ
PCL
ตัวนี้มาเริ่มเล่นกับแผ่นชุด
10 to 23 (Jose Feliciano)
ซึ่งเป็นเพลงอคูสติกกีต้าร์เป็นอันดับแรก
ความรู้สึกแรกสัมผัสกับ
PCL คือ
ความเปิดโล่ง
มีรายละเอียด
เสียงของสายกีต้าร์ที่ขยับแต่ละเส้นนั้นได้บรรยากาศที่ถือว่าใช้ได้ทีเดียว
แผ่นต่อมาผมได้หยิบเอาแผ่นชุด
Hotel California (The Eagles)
มาทดลองฟังความกระฉับกระเฉงดูบ้าง ปรากฎว่าไม่ค่อยเร้าใจเท่าที่ควรคือจังหวะกระชับดีแต่เบสน้อยไปหน่อยสำหรับ
"Rocker"
เลยหันกลับหยิบแผ่นชุด
Karla Bonoff (Karla Bonoff)
ต่อด้วยชุด
Walking
Man (James Taylor)
อีกพักใหญ่ก็ได้ผลที่น่าพอใจกับเสียงร้องและดนตรีประเภทอคูสติกที่มีรายละเอียด
จังหวะกระชับดีมาก
แต่ข้อเสียของ
PCL
ตัวนี้ก็มีเช่นกัน
คือ มี noise
รบกวนค่อนข้างมาก
เสียงแหลมโดดล้ำหน้ามากไปหน่อย
อีกทั้งเป็น
Phono Stage
ที่มีรายละเอียดค่อนข้างสูงจึงไม่เหมาะที่จะเล่นกับแผ่นเก่านักเพราะจะฟ้องความเก่าของแผ่นด้วยเสียง
"กร๊อบแกร๊บ"
ให้ได้ยินชัดเจนทีเดียว
รวมความได้ว่าแนวเสียงแบบนี้คงจะไม่เป็นที่ถูกใจผู้ที่ชอบเสียงเครื่องหลอดหรือคล้ายหลอด
แบบ Phono Stage ของ Creek
เป็นแน่นอน พอฟังจบผมเลยถือโอกาสทดลองกำลังสำรองของเครื่องโดย
Turn off
เครื่องแล้วสังเกตเวลาที่เครื่องจะหยุดส่งสัญญาน
ปรากฏว่าใช้เวลาทั้งสิ้น
30 วินาทีพอดี ซึ่งนับได้ว่ามีกำลังพอสมควร
Final
Phono Stage ชื่อ PCL
ในปัจจุบันนี้คงจะไม่มีจำหน่ายอีกแล้วแต่ถ้าใครสนใจก็คงจะหาซื้อได้ในชื่อ
Poem
ซึ่งเป็นผู้ผลิตเดียวกัน
ส่วนราคานั้นเริ่มต้นจาก
6,000
บาทขึ้นไปจากรุ่นมาตรฐาน
ส่วนความต้องการของลูกค้าจะมากกว่านี้ก็สามารถระบุได้โดยเพิ่มราคาตาม
spec.ที่มากขึ้นได้
ซึ่งโดยภาพรวมแล้ว
Poem
ก็น่าจะเป็นเครื่องเสียงของไทยที่ดีอีกยี่ห้อหนึ่งที่นักเล่นเครื่องเสียงสามารถเลือกได้ในรุ่นมาตรฐาน
ส่วนนอกเหนือจากนี้คงจะอยู่ที่รสนิยมของแต่ละคน
บ้างก็ว่าคุ้มค่าบ้างก็ว่าเสียดายเงินเก็บไว้ซื้อเครื่อง
Brand name ดีกว่า
โดยส่วนตัวของผมนั้นคิดว่า
Phono Stage ชนิด Transistor
ทำให้ดีได้ียากกว่าชนิด
Tube มาก จึงขอแนะนำให้เริ่มจากรุ่นมาตรฐานสักตัวก่อนถ้าชอบก็ค่อย
upgrade ขึ้นไป
ถ้าไม่ชอบก็หยุดแค่นั้นเป็นประสบการณ์
ซึ่งถือเป็นความสนุกของการเล่นเครื่องเสียงครับ
  
จุดเด่น
- ภาคจ่ายไฟกำลังสูง
ตัวถังเรียบร้อย
จุดด้อย
- เสียงรบกวนมาก เล่นกับหัว
MC ไม่ได้
Systems
Luxman
L 507s Integrated Amp.
VPI
HW-19 jr. (Battery connected) with Rega 250 (Modified)
Audio
Technica Cartridge ATN-110 e (MM)
Nuance
1.1 Loudspeaker
All
cables : Transparent Music Link
|