Reviews
Rega RB250 Incognito
Upgrade The Giant Killer Love and Hate.
   

ภาพแสดง
VPI HW 19 jr. ติดตั้ง Rega RB 250 Incognito Upgrade
Introduction
หากจะให้พูดถึงโทนอาร์มราคาประหยัดและให้เสียงที่เป็น Audiophile สักตัวหนึ่งซึ่งยังผลิตอยู่ในทุกวันนี้
คงจะหนีไม่พ้นชื่อของ Rega RB250 ไปได้
ด้วยโครงสร้างที่แข็งแรงและการออกแบบที่ไม่ซับซ้อนอีกทั้งหน้าตาก็สวยงามพอใช้
ทำให้โทนอาร์มรุ่นนี้จัดได้ว่าเป็นจุดเริ่มต้นของนักเล่นแผ่นเสียงที่จริงจังกับเสียงดนตรีจากแผ่นไวนีลที่ต้องผ่านตัวหนึ่งทีเดียว
นอกจากจะเป็นโทนอาร์มมาตรฐานที่ติดตั้งอยู่บน TT Rega P2
แล้ว RB250
นี้ยังเป็นโทนอาร์มที่ได้รับความนิยมจากผู้ผลิตเครื่องเล่นแผ่นเสียงยี่ห้ออื่นๆ
นำไปติดตั้งเป็นอุปกรณ์มาตรฐานของตนไม่ว่าจะเป็น SOTA, VPI, Clearaudio
หรือ Thorens
จึงเป็นการย้ำถึงคุณภาพของโทนอาร์มรุ่นนี้ได้เป็นอย่างดี อีกทั้ง
RB250 นี้ยังเป็นต้นแบบของโทนอาร์มตระกูล RB
ของ Rega รุ่นที่สูงกว่าอื่นๆอีกด้วย
โดยจากความนิยมดังที่กล่าวและความเชื่อของนักเล่นในแบบบริสุทธิ์นิยม (less
is more)
ซึ่งไม่ต้องการโทนอาร์มที่มีกลไกสปริงกำหนดน้ำหนักกดอย่างเช่น RB300
จึงมักนิยมนำโทนอาร์ม RB250
มาปรับปรุงเสียใหม่ให้มีคุณภาพสูงขึ้น ด้วยการเปลี่ยนสายโทนอาร์มและ Counterweight นัยว่าทำให้ RB250
เดิมๆขยับขึ้นมาเทียบชั้นกับโทนอาร์มที่มีราคาสูงกว่า 2-3
เท่าตัวได้อย่างสบายๆ
Technical
spec.
Rega
RB250 เป็นโทนอาร์มประเภทมวลปานกลาง
ซึ่งสามารถเล่นได้กับหัวเข็มในปัจจุบันได้อย่างกว้างขวาง
มีค่ากำหนดดังนี้
Effective Length
240 mm.
Overhang
17.24 mm.
Offset Angle
23 deg.
Spindle to Pivot
233 mm.
Mount Hole Diameter
24 - 25 mm.

ภาพแสดง
สายโทนอาร์ม Incognito และ Counterweight
ส่วนในเรื่องการ Upgrade โทนอาร์มตัวนี้นั้น
ได้ทำการเปลี่ยนสายโทนอาร์มใหม่พร้อมทั้ง Counterweight
และ Stub เป็นสเตนเลส
จึงทำให้โทนอาร์มตัวนี้เปลี่ยนจากเดิมไปไกลทีเดียว
โดยในเรื่องของสายโทนอาร์มนั้นได้เปลี่ยนไปใช้สายของ Cardas
"Ritz" ที่เล็กมากขนาด 33 AWG
จาก Incognito ที่เป็นเส้นเดียวกันตลอดความยาว 1.20 ม.จาก
Headshell จนถึงปลั๊ก RCA
โดยไม่มีจุดเชื่อมต่อใดๆก่อนเข้าภาคขยาย ซึ่งสายแต่ละช่องสัญญานนี้จะตีเกลียวในแบบ
Fully Balance พร้อมหุ้มฉนวนในลักษณะ
"Faraday Cage" อีกทั้งยังใช้ Grounding แบบ
Star แยกสายดินออกจากช่องสัญญานอย่างเด็ดขาด
รวมถึงปลั๊ก RCA
ที่ทำจากอลูมิเนียมที่ไร้การเหนี่ยวนำจากกระแสแม่เหล็กอีกด้วย ส่วน Counterweight ชนิดสเตนเลสนั้นค่อนข้างมีน้ำหนักมากทีเดียว
จึงสามารถถ่วงท้ายสำหรับการเล่นหัวเข็ม MC
ที่มีน้ำหนักสูงได้อย่างไม่ยากเย็นแต่ก็จะตั้งน้ำหนักสำหรับหัวเข็ม
MM ที่น้ำหนักน้อยค่อนข้างยากเช่นกัน
ผู้ที่เล่นหัวเข็มที่มีน้ำหนักเบาอาจต้องถ่วงน้ำหนัก Headshell
เพิ่มขึ้นอีกเล็กน้อย
Sound
หากพูดถึงโทนอาร์ม RB250
เดิมๆแล้วก็กล่าวได้ว่าเป็นโทนอาร์มที่อยู่ในระดับ World
Standard รุ่นหนึ่งทีเดียว
ที่ให้ทั้งน้ำหนักเสียงและรายละเอียดที่ดีมากตลอดจนโครงสร้างที่แข็งแรง
การ Setup ง่ายไม่ยุ่งยากแต่ข้อเสียของโทนอาร์มตระกูล
RB นี้ที่ต้องให้ความสนใจ คือ
การกำหนดค่า Anti-Skating ซึ่งเป็นกลไกแม่เหล็กให้ได้แน่นอนนั้นจะต้องอาศัยแผ่น
Test Disc โดยเฉพาะที่จะมี
Track ไร้ร่องอยู่ในระยะ Null Point
สองแห่งเป็นอุปกรณ์ช่วย ในการ Review
ครั้งนี้ได้ให้น้ำหนักกดของหัวเข็มตามคำแนะนำของผู้ผลิตที่ 1.5 กรัมแต่เมื่อตั้ง Anti-Skating ด้วย
Test Disc
แล้ว ค่าของ Anti-Skating ตามสเกลบนโทนอาร์มจะอยู่ที่ประมาณ 1 กรัม
อีกทั้งโทนอาร์มตระกูล RB
นี้มักจะมีปัญหาของ Bearing
ซึ่งเคยพบใน RB600 มาแล้ว ทั้ง 2
เรื่องนี้ทำให้เกลียดและรักโทนอาร์มตระกูล RB นี้ในเวลาเดียวกัน

รูปแสดง
scale ค่า antiskating=1
ที่น้ำหนักกด 1.5
จากการเล่นโทนอาร์ม RB250 Incognito Upgrade อยู่ 2-3
เดือนกับแผ่นเสียงที่คุ้นเคยชุดหนึ่งเป็นประจำ
ทำให้สังเกตความแตกต่างระหว่าง RB250
ธรรมดากับ Incognito Upgrade ได้ชัดเจน คือ
เสียงย่านกลางต่ำลงลึกมากกว่าเดิมโดยเฉพาะผู้ที่ชอบเสียงของ Double
Bass จะรู้สึกถึงการดีดตัวของสายได้อย่างชัดเจนมากขึ้น
ย่านกลางสูงไปได้ไกลขึ้นกว่าเดิมการพร่าของเสียงย่านสูงลดลง
เสียงฉาบแฉที่เคยสับสนแยกแยะได้ดีขึ้น
ยืดประสิทธิภาพให้กว้างออกไปทั้งบนและล่าง อีกทั้ง Counterweight ซึ่งทำจากสเตนเลสนั้นมีน้ำหนักมากขึ้นเป็นผลให้เสียงย่านกลางต่ำมีมวลหนากว่าเดิมอีกด้วย
แล้วถ้าจะให้ดียิ่งขึ้นควรเล่นโทนอาร์มตัวนี้กับหัวเข็มรุ่นค่อนข้างสูงสักหน่อยเพราะสายโทนอาร์มจะแสดงประสิทธิภาพได้อย่างเต็มที่มากกว่า
อีกเรื่องหนึ่งที่สำคัญและได้ผลดีกับหัวเข็มทุกระดับ คือ การ
Grounding
และการเลือกวัสดุที่เยี่ยมมากๆของโทนอาร์มตัวนี้ ทำให้เสียงรบกวนมีน้อยกว่า
RB250 รุ่นเดิมๆอย่างมาก
ช่วยให้สภาวะและสภาพของการฟังสามารถควบคุมได้ง่ายขึ้นเป็นผลดีในภาพรวม
Final
สรุปได้ว่าโทนอาร์มตระกูล RB นี้ก็ยังคงเป็น
Best Buy ของนักเล่นที่จริงจังแต่ประหยัดอยู่เช่นเดิม
ทั้งในเรื่องของเสียงตลอดจนรูปลักษณ์คาดว่าโทนอาร์ม RB
นี้จะยังคงครองตำแหน่งอยู่อีกนาน ยิ่งหากได้การ upgrade
ที่ถูกต้องด้วยแล้วจะทำให้โทนอาร์มรุ่นนี้ไปได้ไกลออกไปอีกมากจนเกินคุ้มทีเดียว
จึงอยากฝากถึงเจ้าของโทนอาร์ม RB250
ที่กำลังอยากเปลี่ยนโทนอาร์มใหม่ให้รุ่นสูงขึ้น ไม่ว่าจะเป็น
RB 600 หรือ Graham Robin
หรืออื่นใดที่มีราคาสูงกว่า RB250 ประมาณ
2-3 เท่าตัว ขอแนะนำให้ลองการ
upgrade
ของเดิมดูสักหน่อยเพราะจะสามารถประหยัดงบประมาณได้มากกว่าเท่าตัวแต่ได้คุณภาพที่กินกันไม่ลง
สมกับที่ RB250
ได้ถูกขนานนามว่า "Giant Killer"
   
จุดเด่น -
เป็นการ upgrade ที่คุ้มค่าได้ผลชัดเจน
จุดด้อย -
ยังคงเป็นเรื่องของกลไก Anti-Skating
แบบแม่เหล็กที่เอาแน่ไม่ค่อยได้
Systems
EAR 834
Push/Pull Pure ClassA
Integrated amp.
VPI
HW-19 jr. Turntable
Grado Prestige Green Cartridge
Sonneteer Sedley Phono
Stage
TOTEM Rainmaker
Speaker
Vampire
CC-1 Interconnect Cable
Transparent Music Link
Speaker Cable
|